We are professional content agency speaks for you in a content-driven world.  We communicate value from your voice.

Tel: 08-9162-9265

thitirat@anythingwrite.com

Anything Write

22 วัน กับ 22 ไอเดีย Work from Home อย่างไรให้เวิร์คสุดๆ

นี่น่าจะเป็นครั้งแรกของมนุษย์ออฟฟิศมากมายที่จะได้มีโอกาส Work from Home หรือนั่งทำงานอยู่ที่บ้านตามประกาศของคณะกรรมการอำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 เพื่อลดเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค นับตั้งแต่ 22 มี.ค.-12 เม.ย. 2563 รวมเวลา 22 วัน ดังนั้น เราต้องมาเตรียมตัวและวางแผนกันสักหน่อยกับ 22 คำแนะนำ เพื่อให้งานเดิน ไม่สะดุด จิตไม่ตก และเป็นเราในเวอร์ชั่นที่เจ๋งขึ้นในช่วงเวลา 3 สัปดาห์ต่อจากนี้

1. อย่าลุกขึ้นมาทำงานทั้งชุดนอนเด็ดขาด เพราะชุดนอนคือชุดดูดพลังชั้นดี ที่จะดึงให้คุณทิ้งตัวลงบนเตียงได้ง่ายดายมาก ต้องสร้างวินัยให้เหมือนอยู่ที่ออฟฟิศด้วยการลุกมาแต่งตัวสวยแต่งหน้าสักนิด อาจไม่ต้องจัดเต็มเหมือนตอนไปออฟฟิศหรอกนะ แต่ขอให้อยู่ในสภาพพร้อมประชุมผ่านหน้าจอได้ทุกเมื่อเผื่อมีการ conference call ด่วนๆ

2. แบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบกับหัวหน้างานและทีมงานให้ชัดเจน ก่อนการเริ่ม work from home ทุกคนต้องพูดคุยกับหัวหน้างานและเพื่อนร่วมงานให้เคลียร์ว่าใครต้องทำอะไรบ้าง งานที่ต้องส่งมอบในระหว่างนี้มีอะไรบ้าง กำหนดข้อตกลงร่วมกัน ระบุตารางในการสื่อสารเพื่ออัพเดตความคืบหน้าของงานว่าจะเป็นช่วงเวลาไหนที่ทุกคนโอเค เพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกันก่อน

3. จัดตารางงานของตัวเองให้เหมือนวันทำงาน ขอแบบ super productive หน่อยนะคะเพื่อน ๆ จะทำอะไรก่อน หลัง และกำหนดเวลาพักในแต่ละวันให้ชัดเจนนิดนึงกันการย้วยด้วย ที่สำคัญกว่านั้น อย่าลืมสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานเยอะ ๆ อาจจะแค่คุยเล่นกันผ่าน Line Group เหมือนตอนเจอกันที่ออฟฟิศ เพื่อช่วยกันคลายเครียดระหว่างที่ไม่ได้เจอหน้ากันก็โอเคนะ

4. เรียนรู้เครื่องมือเทคโนโลยี แอปพลิเคชั่นใหม่ๆ อะไรที่ไม่เคยใช้ในการทำงาน ก็ลองใช้ซะ เดี๋ยวนี้มันสะดวกมากจริงๆ ตั้งแต่การวางแผนงาน, การประชุม online , การส่งและแชร์เอกสาร, การสื่อสารกลุ่มย่อย มีแอปพลิเคชั่นมารองรับหมด มันจะช่วยให้คุณสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานและลูกค้าได้สะดวก ผ่านช่วงนี้ไปได้ คุณจะกลายเป็นคนไฮเทคขึ้นชัวร์

5. จัดพื้นที่ในการทำงานแยกออกจากพื้นที่พักผ่อนให้ชัดเจน มันถึงจะ professional ลองจัดมุมทำงานสวย ๆ เอาเครื่องเขียนเก๋ ๆ ที่สะสมไว้ออกมาใช้เลย วางกรอบรูปสวย ๆ ดอกไม้ช่อเล็ก ๆ ตุ๊กตุ่นตุ๊กตาตัวโปรด แล้วโพสต์แข่งกันกับเพื่อนในออฟฟิศ ช่วยสร้างแรงฮึดให้อยากลุกมานั่งทำงานในมุมที่เราจัดเองกับมือได้เลย

6. วางแผนเคลียร์งานที่ค้างอยู่ให้หมด ได้เวลาสะสางงานและทำอะไรที่ยังไม่ได้ทำตอนอยู่ออฟฟิศเพราะเมื่อก่อนวัน ๆ เอาแต่ประชุม ประชุม แล้วก็ประชุม มีงานที่สำคัญและน่าทำอีกมากที่โดนงานด่วนในแต่ละวันมาฉกฉวยเอาเวลาไป จนเราไม่เหลือแรงไปทำงานเหล่านั้น ตอนนี้จึงเป็นโอกาสทองที่จะเคลียร์ bucket list ที่จดๆ ไว้ให้เกลี้ยงเลย สู้ๆ

7. ได้เวลาจัดระเบียบไฟล์ในมือถือและคอมพิวเตอร์ จะช่วยให้คุณหาเอกสารและข้อมูลต่าง ๆ ได้รวดเร็วขึ้น ลองตั้งชื่อไฟล์ให้มี logic เป็นระบบมากขึ้นเป็นการจัดระเบียบทางความคิดได้ดีนะ รวมทั้งนี่เป็นเวลาที่เราควร back up ข้อมูลต่าง ๆ ไว้ เพื่อที่เครื่องมือที่ใช้ในการทำงานของเราจะมีพื้นที่ว่างมากขึ้น พร้อมรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพิ่มขึ้นอีก

8. มีเวลาดูแลตัวเองเพิ่มขึ้น เมื่อไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปทำงาน จะมาส์กหน้าบ้าง หรือพักเบรค 15-30 นาที ด้วยการออกกำลังกายเบา ๆ เปิด youtube ดูคลิปสอนออกกำลังกายก็ไม่ผิดกติกา บางวันที่ไม่มี conference call ก็ลองปล่อยหน้าสดให้ผิวได้พักจากเครื่องสำอางบ้าง พอกลับไปทำงาน เพื่อนอาจทักกันเกรียวว่าหน้าใสปิ๊ง หุ่นดีขึ้น

9. Work from Home แล้วก็ต้อง Cook at Home ด้วยสิ ถือโอกาสใช้ความคิดในการสร้างสรรค์เมนูจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหรืออาหารกระป๋องที่ซื้อมาตุนไว้ให้เป็นเมนูใหม่เปลี่ยนไปทุกวัน จัดแต่งจานให้เริ่ดเหมือนลงทุนจ้าง food stylist มา เอาให้เก๋ประหนึ่งว่านั่งอยู่ตามร้านย่านทองหล่อก็น่าสนุกดีเหมือนกัน

10. ฮาว ทู ทิ้ง..ได้เวลาจัดบ้านให้เรียบร้อย ควรเคลียร์ของที่ไม่ได้ใช้แล้ว นอกจากจะกำจัดความสกปรกหมักหมมที่ให้เชื้อโรคได้ซ่อนตัว เผลอ ๆ เราอาจจะเจอเสื้อผ้า หนังสือ เครื่องสำอาง ยารักษาโรค (ที่ยังไม่หมดอายุ) ที่สามารถนำไปบริจาคเป็นประโยชน์ให้กับผู้อื่นได้ต่อไป เดี๋ยวนี้มีหลายมูลนิธิที่พร้อมมารับของถึงบ้านเลย สะดวกสุดๆ

11. ซ่อมบ้านบ้างอะไรบ้าง เมื่อมีเวลาอยู่กับบ้านมากขึ้น ก็ได้เวลาสอดส่องปัญหาต่าง ๆ ของบ้าน และหาทางซ่อมแซมบ้านให้อยู่ในสภาพที่ดี น่าอยู่ เดี๋ยวนี้เราสามารถเปิด youtube เพื่อหาวิธีซ่อมแซมบ้านด้วยตนเองได้ไม่ยากเลย เช่น เปลี่ยนหลอดไฟที่เสีย ปะวอลล์เปเปอร์ที่ขาด หรือก๊อกน้ำที่รั่วซึม แต่ถ้าไม่ไหวจริง ๆ ก็ได้เวลาเรียกช่างมาซ่อมชุดใหญ่ไปเลย

12. ทำบ้านให้ “Green” เริ่มต้นด้วยการจัดถังแยกขยะให้ถูกต้อง ลองดูว่าอะไรที่สามารถ Reuse หรือ Recycle ได้ หรือเศษอาหารก็ยังสามารถนำไปหมักเป็นปุ๋ยได้อีก ขยะมีค่ามากกว่าที่เพื่อน ๆ คิดนะจ๊ะ แยกขยะดี ๆ อาจได้ค่ากาแฟเลยนะ

13. ทำสวนครัวไว้กินเอง ต่อเนื่องมาเลยจากการจัดบ้านให้กรีน ลองหามุมเล็ก ๆ จะเป็นระเบียงก็ทำสวนถาดได้ หรือจะเป็นโรงรถ สนามหน้าบ้าน ก็เป็นพื้นที่ปลูกพืชผักสวนครัวได้ทั้งสิ้น ปลอดสารเคมี กินได้สบายใจ เข้าข่ายปลูกเองกินเองนักเลงพอไง

14. ได้เวลาหยิบหนังสือที่ซื้อมาแล้วยังไม่ได้อ่านขึ้นมาอ่านเสียที ที่วางกองเป็นพะเนิน สะสมจากงานหนังสือมาหลายปี ว่าจะอ่านมาก็หลายรอบ งวดนี้หล่ะอ่านให้ตาแฉะกันไปข้าง จบ 22 วัน ฉลาดขึ้นทันตาเห็น แฮร่ๆ

15. มีเวลาพัฒนาและเพิ่มทักษะใหม่ ๆ ให้ตัวเอง ด้วยการหาความรู้ในโลกอินเตอร์เน็ต หรือลงเรียนคอร์สออนไลน์ที่ฟรีก็มีเยอะนะ เคยสนใจเรื่องอะไร คราวนี้ก็จะได้มีเวลาลองเรียนสักที พูดแล้วก็ตื่นเต้น

16. หัดทำ Blog หรือ Vlog, VDO Clip บันทึกเรื่องราวในช่วงการปรับตัว การทำงานแบบ Work From Home น่าจะมีข้อมูลที่น่าสนใจมาแบ่งปันกันเยอะเลย เผื่อคนอื่นต้องรับมือกับเหตุการณ์แบบนี้อีกในวันข้างหน้า หรืออาจเป็นไอเดียสนุก ๆ อะไรก็ได้ที่ช่วย entertain เพื่อน ๆ ให้คลายเครียดกันได้บ้างก็ดีนะ

17. งัดเอาความสามารถพิเศษออกมาช่วยเหลือสังคม ในช่วงเวลานี้ ใครพอมีวิญญาณความเป็นแม่บ้านแม่เรือน เช่น การเย็บผ้า ก็ลองเย็บหน้ากากผ้าส่งไปบริจาคตามที่ต่าง ๆ หรือทำอาหารทำขนมไปแจกพี่ ๆ ที่ทำความสะอาดสถานที่สาธารณะเพื่อพวกเราอยู่ บอกเลยว่าได้ความรู้สึกอิ่มใจแน่นอน

18. วางแผนเที่ยว บางคนอาจยังมีตั๋วเครื่องบินที่เลื่อนเอาไว้ ก็ได้เวลาวางแผนเที่ยวให้ชุ่มปอด (ที่ปลอดเชื้อ) เมื่อสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 นี้จบลง เราก็ออกไปเที่ยวกัน สนับสนุนการเที่ยวไทย ช่วยกันฟื้นเศรษฐกิจและให้กำลังใจผู้ประกอบการกันนะ

19. ได้กระชับความสัมพันธ์ภายในครอบครัวมากขึ้น ไม่ว่าจะอยู่ภายใต้หลังคาเดียวกันหรือไม่ คุณก็จะมีเวลาพูดคุยกับสมาชิกในครอบครัวมากขึ้น โทรไลน์หากัน เปิดฟังก์ชัน VDO Call รับประทานอาหารพร้อมหน้าพร้อมตากันยังได้เลย หรือถ้าอยู่ด้วยกันก็ยิ่งดี เราจะมีเวลาดูแลกันและกันมากขึ้น เลิฟเลย

20. เขียนบันทึกถึงคนที่คุณรัก เคยลองเขียนขอบคุณหรือบอกเล่าความในใจถึงใครสักคนที่คุณรักและคิดถึงไหม การเขียนเป็นเครื่องมือเรียบเรียงความคิดที่ดี ช่วยให้เราได้ระบายความรู้สึก มีงานวิจัยพบว่าการเขียนขอบคุณมีผลต่อระบบการทำงานของสมองซึ่งจะช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้นและลดภาวะซึมเศร้าได้ด้วยนะ

21. มีเวลาทบทวนวางแผนชีวิตใหม่ เพราะตอนนี้อะไร ๆ ก็ไม่แน่นอน โลกมันช่างวุ่นวายเหลือเกิน การวางแผนการออมเงินจะได้คิดจริงจังก็คราวนี้หล่ะ หรืออาจจะถึงขั้นวางแผนธุรกิจส่วนตัวที่อยากทำมานานแต่ไม่เคยได้ลงมือซักที เอาเวลาไปหา search หาข้อมูลและแรงบันดาลใจใหม่ ๆ กันเลย

22. ทำความรู้จักกับตัวเอง เราเดินทางออกไปหาความสุข ดิ้นรนไขว่คว้าจากโลกภายนอกมาตลอด ลองถอยออกมาเป็นผู้เฝ้ามองและสังเกตตัวเองอย่างเปิดกว้าง ไม่ตัดสิน เพื่อให้เรารู้จักตัวเอง รู้เท่าทันกลไกและความซับซ้อนของใจเรา ลองเฝ้ามองลมหายใจ เฝ้ามองความคิดตัวเองโดยปล่อยให้เป็นอิสระ ไม่กดดันตัวเอง เราก็พบว่าทุกสิ่งมันเปลี่ยนแปลงเร็วมาก และมันเปลี่ยนตลอดเวลา หลายอย่างที่เกิดขึ้นกับเราในวันนี้มันมีเหตุผลเสมอ เมื่อเราเริ่มเข้าใจ ความสบายใจที่จะใช้ชีวิตต่อมันจะเกิดขึ้น

การระบาดของไวรัสโควิด-19 ครั้งนี้เป็นเหตุการณ์ใหญ่ครั้งแรกที่เกิดขึ้นพร้อมกันทั่วโลก ทุกคนต้องลองผิดลองถูกไปด้วยกัน ดังนั้นความเข้าใจและร่วมมือของทุกคนจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด… เราทุกคนจะผ่านเรื่องนี้ไปด้วยกันด้วยความตระหนักแต่ไม่ตระหนก เพื่อให้มันจบโดยเร็วที่สุด สู้ไปด้วยกันนะคะ😊


Written by Thitirat Charoenyingwattana

Post a Comment